สร้างเว็บไซต์ ให้ปังรับปี 2024

จากศูนย์สู่ฮีโร่: สร้างเว็บไซต์ ให้ปังรับเทรนด์ 2024

สร้างเว็บไซต์ – การลงมือ สร้างเว็บไซต์ ที่โดดเด่นและทันสมัยในปี 2024 อาจดูเหมือนเป็นงานที่ยุ่งยากสำหรับหลาย ๆ คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณไม่มีพื้นฐานในการเขียนโค้ด หรือรู้สึกกังวลกับกระบวนการที่อาจซับซ้อน แต่ในความเป็นจริงแล้ว การ สร้างเว็บไซต์ ให้เป็นที่น่าสนใจและตอบโจทย์ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องยากอย่างที่คิด หากคุณมีเครื่องมือที่เหมาะสมและการวางแผนที่ดี แต่ไม่ต้องห่วงด้วยเทคโนโลยีที่มีในปัจจุบัน ทำให้การ สร้างเว็บไซต์ ไม่ยากอีกต่อไป มาดูขั้นตอนในภาพรวมกันดีกว่า

ทำเว็บไซต์ ตัวอย่าง

  1. เว็บไซต์สำเร็จรูปคืออะไร?
  2. ข้อดีของเว็บไซต์สำเร็จรูป
  3. เตรียมตัวก่อนเริ่มสร้างเว็บไซต์
  4. โครงสร้างเว็บไซต์และการจัดวางเนื้อหา
  5. เริ่มต้นสร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress
  6. การปรับแต่ง SEO เพื่อการจัดอันดับที่ดี
  7. ติดตั้งเครื่องมือวัดผลและการตลาดออนไลน์
  8. สร้าง Domain Name และหา Web Hosting
  9. สรุป

สร้างเว็บไซต์ ด้วยเครื่องมือสำเร็จรูปอย่างไร?

เว็บไซต์สำเร็จรูปคือ แพลตฟอร์มหรือเครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถสร้างและปรับแต่งเว็บไซต์ของตัวเองได้อย่างง่ายดาย โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ด คุณสามารถเลือกเทมเพลตที่มีอยู่แล้ว และปรับแต่งตามความต้องการผ่านอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย ด้วยการใช้เว็บไซต์สำเร็จรูป เช่น WordPress คุณสามารถสร้างเว็บไซต์ที่ดูเป็นมืออาชีพได้ในเวลาที่รวดเร็ว ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย

ข้อดีของการ สร้างเว็บไซต์ ด้วยเครื่องมือสำเร็จรูป

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปมีข้อดีหลายประการที่ทำให้มันเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างเว็บไซต์ในปี 2024:

  1. ใช้งานง่าย: ไม่ต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ด คุณสามารถสร้างและจัดการเว็บไซต์ได้ด้วยตัวเอง
  2. ประหยัดเวลา: การพัฒนาเว็บไซต์ด้วยแพลตฟอร์มสำเร็จรูปใช้เวลาน้อยกว่าการสร้างเว็บไซต์จากศูนย์
  3. มีเทมเพลตหลากหลาย: มีเทมเพลตสำเร็จรูปให้เลือกมากมาย ทำให้คุณสามารถสร้างเว็บไซต์ที่ตรงกับสไตล์และแบรนด์ของคุณ
  4. รองรับการทำ Responsive Design: เว็บไซต์จะสามารถแสดงผลได้ดีบนทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟน
  5. มีฟีเจอร์พื้นฐานพร้อมใช้งาน: เช่น ระบบจัดการเนื้อหา (CMS) การจัดการ SEO และอื่น ๆ
  6. ราคาไม่แพง: เมื่อเทียบกับการจ้างนักพัฒนาเว็บไซต์โดยเฉพาะ เว็บไซต์สำเร็จรูปนั้นเป็นทางเลือกที่ประหยัดงบประมาณ

เตรียมตัวก่อนเริ่ม สร้างเว็บไซต์

ก่อนที่คุณจะเริ่มต้นสร้างเว็บไซต์ มีขั้นตอนการวางแผนที่สำคัญที่คุณควรคำนึงถึง:

  1. กำหนดวัตถุประสงค์ของเว็บไซต์: การรู้จุดประสงค์หลักของเว็บไซต์ของคุณเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ เช่น หากคุณต้องการขายสินค้าออนไลน์ เว็บไซต์ของคุณควรมีระบบตะกร้าสินค้าและการชำระเงินที่มีประสิทธิภาพ หากคุณต้องการบล็อกส่วนตัว เนื้อหาควรเป็นจุดเด่นหลัก และควรมีการออกแบบที่เน้นการอ่านง่าย
  2. ระบุกลุ่มเป้าหมาย: คุณจำเป็นต้องระบุว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณคือใคร และพวกเขามีความต้องการอย่างไร การเข้าใจความต้องการของผู้ใช้งานจะช่วยให้คุณสามารถออกแบบเว็บไซต์และสร้างเนื้อหาที่ตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขาได้ดียิ่งขึ้น
  3. รวบรวมเนื้อหาและรูปภาพ: เนื้อหาและรูปภาพเป็นหัวใจสำคัญของเว็บไซต์ คุณควรเตรียมเนื้อหาที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์สำหรับผู้เยี่ยมชม รวมถึงรูปภาพที่มีคุณภาพและสื่อถึงแบรนด์ของคุณได้อย่างดี
  4. ศึกษาเว็บไซต์คู่แข่ง: การศึกษาคู่แข่งจะช่วยให้คุณได้ไอเดียในการสร้างเว็บไซต์ของคุณเอง ดูว่าเว็บไซต์ในตลาดเดียวกันมีลักษณะอย่างไร และค้นหาจุดที่คุณสามารถทำให้แตกต่างและโดดเด่นกว่า
  5. วางแผนโครงสร้างเว็บไซต์: โครงสร้างเว็บไซต์ควรเป็นระเบียบและง่ายต่อการใช้งาน คิดถึงการจัดวางหน้าเพจและการนำเสนอเนื้อหาให้ตรงกับเป้าหมายที่คุณต้องการ การใช้ Sitemap จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของโครงสร้างเว็บไซต์และทำให้การวางแผนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
Name card example

เช็คเว็บไซต์ตัวอย่าง J.Place Hotel โรงแรมเจเพลส ลาดพร้าว กทม.

โครงสร้างเว็บไซต์และการจัดวางเนื้อหา

การออกแบบโครงสร้างเว็บไซต์ที่ดีเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน รวมถึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ SEO ด้วย:

  1. การใช้ Header, Footer, และ Navigation: การจัดวาง Header, Footer, และ Navigation ที่สอดคล้องกันทั่วทั้งเว็บไซต์จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถนำทางและค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้ง่ายขึ้น การนำเสนอเนื้อหาที่ชัดเจนในส่วนนี้ยังเป็นสิ่งสำคัญต่อการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของแบรนด์
  2. การจัดวางเนื้อหา: ควรใช้หัวข้อและย่อหน้าที่ชัดเจน เพื่อให้เนื้อหาอ่านง่ายและน่าสนใจ การจัดวางเนื้อหาให้เป็นระเบียบและเรียบง่ายจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้เร็วขึ้น และยังช่วยให้เว็บไซต์ดูเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น
  3. การใช้ Call-to-Action (CTA): CTA เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการกระตุ้นให้ผู้ใช้ทำตามที่คุณต้องการ เช่น การสมัครสมาชิก การสั่งซื้อสินค้า หรือการดาวน์โหลดเอกสาร การวาง CTA ในตำแหน่งที่เหมาะสม เช่น บนหน้าเพจที่ผู้ใช้มักจะเห็นได้ง่าย จะช่วยเพิ่มโอกาสในการแปลงผู้เยี่ยมชมให้กลายเป็นลูกค้า
  4. Responsive Design: ในยุคดิจิทัลนี้ ผู้ใช้งานเว็บไซต์มาจากหลายแพลตฟอร์มและอุปกรณ์ การออกแบบเว็บไซต์ให้รองรับการใช้งานบนอุปกรณ์ต่างๆ เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ Responsive Design จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณสามารถแสดงผลได้อย่างดีบนทุกอุปกรณ์ ทำให้ผู้ใช้งานมีประสบการณ์ที่ดีไม่ว่าจะใช้อุปกรณ์ใดก็ตาม

เริ่มต้น สร้างเว็บไซต์ ด้วย WordPress

หากคุณตัดสินใจใช้ WordPress ในการสร้างเว็บไซต์ คุณสามารถทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อเริ่มต้น:

  1. ติดตั้ง WordPress: เริ่มต้นด้วยการเลือกโฮสติ้งที่รองรับ WordPress และติดตั้งผ่าน cPanel หรือตัวติดตั้งอัตโนมัติของโฮสติ้ง การเลือกโฮสติ้งที่มีประสิทธิภาพสูงจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีความปลอดภัย
  2. หาและติดตั้ง Theme: การเลือก Theme ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณเป็นสิ่งสำคัญ เพราะ Theme จะเป็นตัวกำหนดลักษณะของเว็บไซต์ ทั้งในด้านการออกแบบและการใช้งาน คุณสามารถเลือก Theme ที่ตรงกับความต้องการจากคลังของ WordPress และปรับแต่งให้เหมาะสมกับแบรนด์ของคุณ
  3. ติดตั้ง Plugin: Plugin เป็นเครื่องมือที่จะเพิ่มฟังก์ชันการทำงานให้กับเว็บไซต์ของคุณ เช่น Yoast SEO สำหรับการทำ SEO Google Analytics สำหรับการติดตามสถิติ และ Akismet สำหรับป้องกันสแปม
  4. สร้างหน้าเพจสำคัญ: เริ่มสร้างหน้าเพจหลัก เช่น Home, About Us, Contact Us และหน้าอื่นๆ ที่จำเป็นตามประเภทเว็บไซต์ของคุณ การจัดทำเนื้อหาในหน้าเพจเหล่านี้ควรให้ข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นประโยชน์ต่อผู้เยี่ยมชม โดยเฉพาะหน้าหลัก (Home Page) ควรมีการแสดงข้อมูลที่ชัดเจน สะดุดตา และมีการเชื่อมโยงไปยังหน้าเพจอื่นๆ ที่สำคัญ เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
  5. ตั้งค่าเมนู: การจัดการเมนูในเว็บไซต์เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม คุณสามารถสร้างเมนูหลักผ่าน Appearance > Menus ใน WordPress Dashboard เพิ่มหน้าเพจที่สร้างไว้เข้าสู่เมนู และจัดลำดับการแสดงผลของเมนูให้เหมาะสม เมนูควรมีโครงสร้างที่ชัดเจนและง่ายต่อการนำทาง โดยผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้ภายในคลิกเดียว

การปรับแต่ง SEO เพื่อการจัดอันดับที่ดี

การปรับแต่ง SEO (Search Engine Optimization) เป็นขั้นตอนที่สำคัญมากในการทำให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏบนหน้าผลการค้นหาและดึงดูดผู้เข้าชม:

  1. ใช้ Yoast SEO: Yoast SEO เป็นหนึ่งในปลั๊กอินที่นิยมใช้มากที่สุดสำหรับ WordPress ช่วยให้คุณปรับแต่ง SEO ของแต่ละหน้าเพจได้อย่างง่ายดาย คุณสามารถตั้งค่า Title, Meta Description, และคำค้น (Keyword) สำหรับแต่ละหน้าเพื่อให้เว็บไซต์ของคุณถูกค้นพบได้ง่ายขึ้นในเสิร์ชเอนจิน เช่น Google
  2. สร้าง Sitemap และส่งให้ Google: Sitemap เป็นไฟล์ที่แสดงโครงสร้างของเว็บไซต์และลิงก์ไปยังทุกหน้าในเว็บไซต์ของคุณ การส่ง Sitemap ให้ Google ผ่าน Google Search Console จะช่วยให้ Google เข้าใจโครงสร้างของเว็บไซต์และทำการจัดอันดับได้ดียิ่งขึ้น
  3. เขียน Meta Description ที่น่าสนใจ: Meta Description คือคำอธิบายสั้นๆ ที่ปรากฏใต้ลิงก์เว็บไซต์ในผลการค้นหา เป็นสิ่งที่สำคัญในการดึงดูดความสนใจของผู้ใช้ คุณควรเขียน Meta Description ที่สรุปเนื้อหาหลักของแต่ละหน้าได้ดีและมีคำค้นที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มโอกาสในการคลิกเข้าชมเว็บไซต์ของคุณ
  4. ปรับแต่ง Title และ Keyword: Title และ Keyword เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการปรับแต่ง SEO คุณควรตั้งชื่อ Title ให้สั้นกระชับและบ่งบอกเนื้อหาของหน้าเพจได้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งเลือกใช้คำค้นที่เกี่ยวข้องและมีการค้นหาสูง เพื่อเพิ่มโอกาสที่เว็บไซต์ของคุณจะปรากฏในผลการค้นหา

ติดตั้งเครื่องมือวัดผลและการตลาดออนไลน์

เมื่อเว็บไซต์ของคุณพร้อมใช้งานแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการติดตั้งเครื่องมือวัดผลและการติดตามพฤติกรรมของผู้เยี่ยมชม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการวิเคราะห์และปรับปรุงประสิทธิภาพของเว็บไซต์:

  1. ติดตั้ง Google Tag Manager: Google Tag Manager เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณสามารถจัดการ tracking code ต่างๆ บนเว็บไซต์ของคุณได้อย่างง่ายดาย คุณสามารถติดตามการทำงานของเว็บไซต์และพฤติกรรมของผู้ใช้ได้โดยไม่ต้องแก้ไขโค้ดของเว็บไซต์เอง
  2. เพิ่ม Facebook Pixel: Facebook Pixel เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการทำโฆษณาบน Facebook ช่วยให้คุณสามารถติดตามและวัดผลการทำงานของโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงสามารถทำ Remarketing กับผู้ที่เคยเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณได้
  3. ติดตั้ง Conversion Tracking: หากคุณทำโฆษณาผ่าน Google Ads คุณควรติดตั้ง Conversion Tracking เพื่อวัดผลการแปลงของโฆษณา เช่น จำนวนการซื้อสินค้า หรือการสมัครสมาชิก การติดตาม Conversion นี้จะช่วยให้คุณสามารถปรับปรุงโฆษณาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  4. ติดตั้ง Google Search Console: Google Search Console เป็นเครื่องมือฟรีจาก Google ที่ช่วยให้คุณสามารถติดตามและปรับปรุง SEO ของเว็บไซต์ได้ คุณสามารถใช้เครื่องมือนี้ในการตรวจสอบปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับเว็บไซต์ของคุณ และรับคำแนะนำในการแก้ไขเพื่อปรับปรุงการจัดอันดับในผลการค้นหา
  5. ติดตั้ง Google Analytics: Google Analytics เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ที่ทรงพลังที่สุดในการติดตามพฤติกรรมของผู้เยี่ยมชมบนเว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถสร้างบัญชี Google Analytics และติดตั้งโค้ด tracking บนเว็บไซต์เพื่อติดตามข้อมูลสำคัญ เช่น จำนวนผู้เยี่ยมชม แหล่งที่มาของผู้เยี่ยมชม และพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ การวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถปรับปรุงเว็บไซต์ให้ตอบโจทย์ผู้ใช้มากขึ้น

สร้าง Domain และหา Web Hosting สำหรับสร้างเว็บไซต์

การเลือก Domain Name และ Web Hosting เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการสร้างเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพ:

  1. เลือก Domain Name: Domain Name ควรเป็นชื่อที่สั้น จดจำง่าย และเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ การเลือก Domain Name ที่ดีจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถจดจำและค้นหาเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายขึ้น ควรจดทะเบียน Domain Name กับผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือ เพื่อความปลอดภัยและความต่อเนื่องในการใช้งาน
  2. หา Web Hosting ที่เหมาะสม: Web Hosting คือบริการที่ทำให้เว็บไซต์ของคุณออนไลน์และเข้าถึงได้จากทั่วโลก การเลือก Web Hosting ที่เหมาะสมกับขนาดและประเภทของเว็บไซต์ของคุณเป็นสิ่งสำคัญ คุณควรพิจารณาเรื่องความเสถียรของเซิร์ฟเวอร์ การสนับสนุนลูกค้า และฟีเจอร์ต่างๆ ที่มีให้ เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณทำงานได้อย่างราบรื่น
  3. ตั้งค่า DNS: เมื่อคุณได้ Domain Name และ Web Hosting แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการตั้งค่า DNS (Domain Name System) เพื่อเชื่อมโยง Domain Name ของคุณกับ Web Hosting การตั้งค่า DNS ที่ถูกต้องจะทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณผ่าน Domain Name ได้อย่างไม่มีปัญหา

สรุป

การสร้างเว็บไซต์ที่ดีและมีประสิทธิภาพในปี 2024 ไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณมีการวางแผนที่ดีและใช้เครื่องมือที่เหมาะสม WordPress เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมในการเริ่มต้นสร้างเว็บไซต์ของคุณ โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ดมาก่อน ด้วยการวางโครงสร้างเว็บไซต์ที่ดี การปรับแต่ง SEO และการติดตั้งเครื่องมือวัดผล คุณจะสามารถสร้างเว็บไซต์ที่ไม่เพียงแต่ดูดี แต่ยังตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้และส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจได้อีกด้วย

หากคุณไม่มีเวลาหรือยังรู้สึกสับสนกับการสร้างเว็บไซต์ ไม่ต้องกังวล ทีมของเราพร้อมที่จะช่วยเหลือคุณทุกขั้นตอน ติดต่อเราได้ทันทีเพื่อให้เราได้ช่วยสร้างเว็บไซต์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับคุณ บริการรับสร้างเว็บไซต์

เกี่ยวกับ บอทแอนด์ไลฟ์

Tavatchai Eng
Tavatchai Eng
Articles: 2